Last updated: 12 เม.ย 2566 | 132 จำนวนผู้เข้าชม |
มะเร็งปอดเป็นโรคที่มีอาการไม่แน่นอนในระยะต้น และอาจไม่มีอาการเลยในระยะแรกของการเจริญเติบโตของเนื้องอก แต่เมื่อมีอาการแล้วส่วนมากจะเป็นอาการด้านหายใจ และอาจมีอาการอื่นๆ เช่น
• ไอและเจ็บหน้าอก: อาจมีไอและเจ็บหน้าอกเป็นเวลานาน และไม่สามารถรักษาด้วยยาแก้ไอได้
• หายใจเหนื่อยล้า: หายใจเหนื่อยล้า เหนื่อยง่าย หรือหายใจเข้าลึกไม่ได้ เป็นเครื่องไขว้ที่บ่งบอกว่ามีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
• ตัวเหลืองหรือเบื่ออาหาร: ผิดปกติของระบบย่อยอาหาร เช่น อาการปวดท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
• คลื่นไส้ อาเจียน และท้องผูก: หากมะเร็งปอดได้กระทบถึงกระเเสเลือดหรือเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร
• อาการทางสมอง: มะเร็งปอดที่มีการแพร่กระจายไปยังสมองอาจก่อให้เกิดอาการเป็นลมชัก อาการเป็นผิดปกติทางจิตใจ หรืออาการสับสน
หากคุณมีอาการผิดปกติ หรือคิดว่าคุณอาจมีโรคมะเร็งปอด คุณควรพูดคุยกับแพทย์ของคุณเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาให้ทันเวลา
การรักษามะเร็งปอด
การรักษามะเร็งปอดจะขึ้นอยู่กับสถานะของโรคในแต่ละระยะและการกระทำที่เหมาะสมในแต่ละสถานะ การรักษามะเร็งปอดสามารถแบ่งเป็นสองประเภทหลัก คือ
การรักษาที่ใช้เพื่อรักษาโรค และการรักษาที่ใช้เพื่อควบคุมอาการของโรคในระยะสุดท้ายของโรค โดยปกติแล้ว การรักษามะเร็งปอดจะเป็นการรักษาแบบบูรณาการโดยใช้หลายวิธีการรักษาร่วมกัน เช่น
• การผ่าตัดเพื่อเอาเนื้องอกออกไป
• การใช้รังสีบำบัด เช่น รังสีแพทย์แบบเฝ้าระวังและเปลี่ยนตำแหน่ง, การรังสีภายในร่างกาย
• การใช้ยาเคมีบำบัด เช่น เซลล์เส้นใยเต็มรูปแบบ (Full-dose Chemotherapy), สารป้องกันและรักษา (Targeted Therapy), รักษาแบบผสมผสาน (Combination Therapy)
• การใช้การแพทย์เคมีบำบัดแบบท้องเสีย (Immunotherapy)
การรักษามะเร็งปอดขึ้นอยู่กับสถานะของโรคในแต่ละระยะและการกระทำที่เหมาะสมในแต่ละสถานะ หากคุณมีอาการผิดปกติ หรือคุณคิดว่าคุณอาจมีโรคมะเร็งปอด คุณควรพูดคุยกับแพทย์ของคุณเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ การตรวจสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อค้นพบ
ผู้ป่วยมะเร็งปอดควรรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่สำคัญเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยให้ร่างกายแข็งแรงต่อการต่อสู้กับโรคมะเร็งปอดได้ดีขึ้น อาหารที่แนะนำมีดังนี้
• ผักและผลไม้สด: ผักและผลไม้สดเป็นแหล่งของวิตามินและเส้นใยอาหารที่สำคัญในการช่วยป้องกันมะเร็ง ควรรับประทานผักสีเขียวเข้มเช่น ผักกาดขาว ผักบุ้งจีน ผักกาดแก้ว และผลไม้เช่น มะละกอ ส้ม และแอปเปิ้ล
• แป้งธัญพืช: ควรเลือกแป้งธัญพืชแทนแป้งสาลี เพราะแป้งธัญพืชมีเส้นใยอาหารที่สูงและสารอาหารอื่นๆ เช่น โปรตีน วิตามินและแร่ธาตุ
• ไข่และเนื้อสัตว์: ไข่และเนื้อสัตว์เป็นแหล่งของโปรตีนที่สำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
• อาหารที่มีไขมันดี: ควรรับประทานไขมันที่ดีเช่น มันปลา น้ำมันมะกอก และเมล็ดชมพู เพราะไขมันที่ดีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
• อาหารที่มีเบต้า-กะโด้: อาหารที่มีเบต้า-กะโด้ เช่น ผักกาดขาว กล้วย และแตงกวา เป็นแหล่งของสารอาหารที่ช่วย
8 ก.ค. 2566
7 พ.ค. 2565